แพรรี่ ไพรวัลย์ ฟาดเด็ดแซ่บสนั่น หลังมีคนแห่แอนตี้ พระเขื่อน ชี้เป็นบัณเฑาะก์ บวชไม่ได้ จนเจ้าตัวต้องออกมาอธิบาย พร้อมลั่น ว่าจะไม่สีซอแล้วนะ
หลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา(1 ก.ค.66) นักร้องหนุ่ม-อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เขื่อน ภัทรดนัย หรือ เขื่อน K-OTIC ได้สละทางโลกเข้าอุปสมบทศึกษาพระธรรม แต่ทำเอาเหล่าชาวเน็ตแห่ตั้งคำถามพร้อมแอนตี้ชี้ว่าเป็นบัณเฑาะก์ บวชไม่ได้ จนทำเอาอดีตพระนักเทศน์ชื่อดังอย่าง แพรรี่ ไพรวัลย์ เดือดออกมาฟาดสนั่นพร้อมอธิบายให้คนเหล่านั้นได้เข้าใจอย่างกระจ่าง พร้อมลั่น ว่าจะไม่สีซอแล้วนะ

ภาพจาก paiwan_wannabud
แพรรี่ฟาด หลังคนแห่แอนตี้ พระเขื่อน
ล่าสุดในอินสตราแกรมส่วนตัวของอดีตพระนักเทศน์ชื่อดังอย่าง แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความ ซึ่งรูปดังกล่าวนั้นยังมีข้อความระบุถึง นักร้องหนุ่ม-อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เขื่อน ภัทรดนัย หรือ เขื่อน K-OTIC ที่เจ้าตัวได้เข้าอุปสมบทไปแล้วเรียบร้อย โดยมีข้อความระบุไว้ว่า “ชาวพุทธในเน็ตต่อต้านพระเขื่อน ชี้เป็นบัณเฑาะก์ บวชไม่ได้ แต่หากบวชแล้วต้องสึกเสีย จี้สอบวินัยพระอุปัชฌาย์ที่บวชให้ด่วนๆ” เมื่อ แพรรี่ เห็นดังกล่าวทำให้เจ้าตัวต้องออกมาฟาดพร้อมอธิบายลายละเอียดไว้ยาวเหยียดว่า “มึงจะไปต่อต้านเขาทำไมคะ ในเมื่อเขาบวชภายใต้กฎเกณฑ์ที่พระวินัยให้การรับรอง เขาไม่ได้บวชภายใต้ความเห็นชอบจากชาวเน็ตอย่างมึงนะคะ สงสัยอะไรก็ศึกษาเลยค่ะ
ดิฉันเคยพูดไปหลายทีแล้วว่า เรื่องบัณเฑาะก์เนี่ย ท่านมีอธิบายไว้ชัดเลยในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา (คัมภีร์อธิบายพระวินัย) ในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา ระบุไว้ชัดว่า ในบัณเฑาะก์ 5 ประเภทนั้น บัณเฑาะก์ที่ห้ามการอุปสมบทอย่างเด็ดขาด มีแค่ ๒ ประเภทเท่านั้น คือ 1 บุคคลที่ถูกตอนอวัยวะเพศไปแล้ว (ปัจจุบันอาจหมายถึงคนที่แปลงเพศด้วย) กับ 2 บุคคลผู้มีความบกพร่องทางอวัยวะเพศ (ระบุไม่ได้ว่าเป็นเพศไหน) ถ้าถึงขั้นนี้ยังไม่กระจ่างก็ให้ไปดูในฎีกาวิมติวิโนทนี (คัมภีร์อธิบายความสมันตปาสาทิกาอีกชั้นหนึ่ง) ซึ่งพระฎีกาจารย์ท่านก็เขียนไว้ชัดเช่นกันว่า ที่บอกว่า 2 ประเภทนี้ ไม่ห้ามการบรรพชา นั่นก็คือหมายถึง อนุญาตการอุปสมบท ศาสนาพุทธในเมืองไทยเป็นเถรวาทนะคะ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยใดๆ ในพระธรรมวินัย ข้อสงสัยนั้นๆ ย่อมต้องตรวจสอบด้วยข้ออรรถข้อธรรม ซึ่งมีการอธิบายไว้ชัดในคัมภีร์ชั้นต่างๆ

ภาพจาก paiwan_wannabud
ที่สำคัญเลย ดิฉันอยากจะบอกให้ทราบว่า การบวชจริงๆ นั้น เป็นแต่เพียงขั้นตอนของการรับรองค่ะ มีพระอุปัชฌาย์เป็นผู้นำพาและรับผิดชอบในตัวกุลบุตรต่อหมู่สงฆ์ มีหมู่สงฆ์เป็นสักขีพยานในการรับรู้ถึงการมีอยู่ของภิกษุใหม่ การบวชไม่ใช่เรื่องของชาวเน็ตนะคะ พักก่อน ศาสนาให้พื้นที่กับผู้คนในการฝึกหัดขัดเกลาอุปนิสัยค่ะ บัณฑิตไม่ติเตียนใครอย่างปราศจากปัญญานะคะ ภิกษุดีเลวไม่ได้วัดกันที่ว่าก่อนบวชมีพฤติกรรมอย่างไรค่ะ แต่วัดกันที่ว่าบวชแล้วครองตนอย่างไรต่างหาก ปาราชิกข้อแรกมาจากพระผู้ชายนะคะ ไม่ได้มาจากพระบัณเฑาะก์ ฝากไว้ให้คิด แต่ถ้าจะไม่คิดก็แล้วแต่ จบ พร้อมทั้งยังฝากเตือนไว้ว่า “อยากจะเตือนนะคะว่า เวลามองอะไรอย่าเผลอมองแบบเหมารวม เหมือนมองพระ ควรมองที่พฤติกรรมส่วนตัวของรูปนั้นๆ พระผู้ชายบวชเข้าไปแล้ว ทำตัวเสื่อมเสีย มีไหมคะ มีค่ะ เยอะด้วย พระที่เป็นบัณเฑาะก์บวชเข้าไปแล้ว ทำตัวเสื่อมเสีย มีไหมคะ มีค่ะ เยอะด้วยเช่นกัน แต่ถามว่า พระเหล่านั้นที่ทำตัวไม่เหมาะสม มีความหมายเท่ากับพระทุกรูปหรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่ ถามว่าพระที่ปฎิบัติดีมีไหม ก็ต้องตอบว่า มีค่ะ ดังนั้นดูพระ ให้แยกดูไปนะคะ ดูที่พฤติกรรม ไม่ใช่ดูที่เพศสภาพ พระบวชเข้าไปแล้วมีเพศเดียวค่ะ นั่นคือเพศบรรพชิต ถ้าเมื่อไหร่ไม่ปฎิบัติตามกฎเกณฑ์ของความเป็นบรรพชิต ไม่ว่า พระรูปนั้นจะเป็นใคร ก็ควรแก่การตำหนิค่ะ” และลั่นปิดท้ายไว้ว่า “ว่าจะไม่สีซอแล้วนะคะ แต่อดไม่ได้”

ภาพจาก koendanai
ติดตามข่าวสารช่องทางอื่น ๆ DARA 2U
Facebook : Dara 2U
Twitter : DARA 2U
Instragram : dara.2u
TikTok : dara2you